สาระหน้ารู้ (Knowledge)
โคมอ่านหนังสือ ควรวางอยู่มุมซ้ายของหัวโต๊ะ
เพื่อไม่ให้แสงตกกระทบมาแยงสายตาและเป็นการลบเงาที่เกิดขึ้นระหว่างอ่าน หรือเขียนหนังสือด้วยการจัดวาง ควรวางในตำแหน่งที่ให้แสงเข้าทางด้านข้าง
ซ้ายมือ จะช่วยให้อ่านหนังสือได้อย่างสบายตาและนานยิ่งขึ้น
แสงไฟกับการอ่านหนังสือ
แสงสว่างที่ดีต่อดวงตาสำหรับอ่านหนังสือจะต้องไม่มืดหรือสว่างจ้าจนเกินไป ส่วนตัวแนะนำหลอด LED BULB ขนาด 5,7 วัตต์ ซึ่งเพียงพอแล้ว เพราะถ้ายิ่งแสงสว่างจ้ามากจนเกินไป จะไม่สบายตาและเป็นอันตรายต่อดวงตา
สำหรับในเวลากลางคืน เมื่อเราปิดไฟในห้องและใช้แสงไฟจากโคมอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียว ความสว่างของแสงหลอดไฟจะยิ่งมีมากกว่าปกติ
แสงสว่างที่ไม่เหมาะสมในการอ่านหนังสือ
จะทำให้ตาเกิดการระคายเคืองและมีอาการตาเพลีย คือปวดรอบตาตาพร่ามัว ตาลายเป็นพักๆ เคืองตา แสบตาหรือมีน้ำตาไหลร่วมด้วย เมื่อต้องอ่านหนังสือเป็นเวลานานๆในแสงสว่างที่ไม่เหมาะสม การอ่านหนังสือในบริเวณที่มีแสงจากธรรมชาติควรเลี่ยงแสงสว่างจ้าเพราะจะทำให้สายตาอ่อนล้า แต่ถ้าหากมืดเกินไปก็เป็นปัจจัยให้สายตาสั้นได้ การอ่านหนังสือในเวลากลางคืน ควรเลือกแสงไฟที่ไม่ขาวมากจนเกินไปหรือแสงสีเหลืองจนเกินไปเพราะแสงแบบนี้จะรบกวนสายตาควรเลือกแสงนวล(WARMWHITE) ซึ่งเหมาะแก่การอ่านหนังสือมากกว่า
เลือกหลอดไฟต้องดูอะไรบ้าง
ค่าพลังงาน (วัตต์)
เป็นค่าพลังงานที่ใช้
ยิ่งวัตต์สูง หมายถึงแสงสว่างมาก กินไฟมาก
ค่าอุณหภูมิสี Color Temperature
มีหน่วยเป็น Kelvin (K)
DAYLIGHT สีมีอุณหภูมิที่ 6000k เป็นแสงโทนขาว
เป็นสีที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เนื่องจากทำให้แสงที่สะท้อนจากวัตถุไม่เพี้ยน
นิยมใช้ตามบ้านเรือน สำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม
COOLWHITE สีมีอุณหภูมิที่ 4000 – 5000K เป็นแสงโทนเหลืองขาว
มักนิยมใช้กับงานป้าย งานโชว์สินค้า ไฟบนเวที
WARMWHITE สีมีอุณหภูมิที่ 2000 – 3000k
จะเป็นแสงโทนเหลืองเข้ม เป็นสีที่มีผลต่อความรู้สึก
ทำให้อบอุ่น ผ่อนคลาย มักถูกนำไปใช้ในสถานบริการ
เช่น ร้านสปา โรงแรม และตามบ้านเรือนอย่างในห้องนอน ห้องน้ำ
ค่าฟลักซ์แสงสว่าง (ลูเมน)
ค่าลูเมนมาก ความสว่างก็จะมากขึ้นเช่นกัน
ค่าความถูกต้องของสี Color rendering index หรือ CRI
คือค่าที่บอกว่าแสงไฟจากหลอดนื้ เมื่อกระทบกับวัตถุจะทำให้สีของวัตถุเพี้ยนจากความจริงมากน้อยเพียงใด ซึ่งใช้มาตรฐานจากแสงอาทิตย์ที่ถือว่าเป็นแสงธรรมชาติ หากหลอดไฟใดมีค่า CRI สูง ยิ่งให้ความถูกต้องของสีวัตถุใกล้เคียงกับแสงอาทิตย์มากที่สุด ทำให้สีไม่เพี้ยนและดวงตาของเราไม่ทำงานหนักเกินไป
ค่าประสิทธิภาพ (Efficiency)
เป็นการนำค่าลูเมน(ความสว่าง) มาหารด้วยค่าวัตต์ (พลังงาน)
ความหมายของค่าที่ได้ คือ
พลังงาน 1 วัตต์ของหลอดไฟนี้ ให้แสงสว่างกี่ลูเมน
ยิ่งสูงยิ่งแปลว่า 1 วัตต์ให้แสงสว่างเยอะ ทำให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
ขั้วหลอดไฟแบบเกลียว
แนะนำขั้ว E27 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน
ตารางเปรียบเทียบ ปลั๊ก(Plug) ของแต่ละประเทศ